ไอศกรีมตัก เนสท์เล่

5,000 บาท โอกาสธุรกิจไอศกรีมตัก “เนสท์เล่”
เริ่มต้น 5 พันบาท ปฏิบัติการสีฟ้า “Blue Mission” เปิดทางสู่การเป็นเจ้าของร้านไอศกรีมเนสท์เล่ กลยุทธ์ใหม่ในการขยายอาณาจักรสีฟ้าทั้งด้านช่องทางจำหน่าย ควบคู่ไปกับนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และการสร้างแบรนด์

“โอลิเวียร์ จาคูโบวิช” ผู้จัดการช่องทาง Food Service TT และ “สุปัญญา อาชามงคล” ผู้จัดการผลิตภัณฑ์เนสท์เล่ ไอศกรีม บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ยึดร้านของ “ขัติญา โพธิ์เมือง” เครือข่ายไอศกรีมเนสท์เล่ เปิดเผยอาวุธล่าสุด ของเนสท์เล่ ไอศกรีมที่จะใช้เดินหน้าขยายช่องทางจำหน่ายใหม่ๆ โดย ขายโอกาสธุรกิจไอศกรีมตักเนสท์เล่ ที่ไม่ต้องเสียค่าแรกเข้า และค่าแฟรนไชส์ใดๆ

การปักธงใหม่ครั้งนี้เนสท์เล่เตรียมกวาดเครือข่ายของคนที่มีหน้าร้านของตัวเองเป็นทุนเดิม และอยากขยายธุรกิจ เติมไลน์ธุรกิจไอศกรีมเสริมรายได้

เพียงเงินลงทุนเริ่มต้น 5 พันบาท พร้อมลงทุนได้ทันที
โดย 1 ชุด การลงทุนมาพร้อมกับตู้แช่ (แบบเช่า) 1 ตู้ ไอศกรีม 12 กล่อง ช้อนตักไอศกรีมเบอร์ 20 จำนวน 1 คัน แก้วซันเดย์จำนวน 6 ใบ แก้วบานาน่า สปลิท 6 ใบ แก้วไอศกรีม 6 ใบ และท็อปปิ้งอีก 3 ขวด พร้อมอุปกรณ์ตกแต่งหน้าร้าน เมนู โปสเตอร์ตกแต่ง เพื่อสนับสนุนการขาย

แม้จะเป็นแค่ “โอกาสธุรกิจ” แต่เครือข่ายร้านค้าเหล่านี้เสมือนพาร์ทเนอร์ในการกระจายสินค้า ทุกการสนับสนุนร้านค้าเป็นผลประโยชน์ย้อนกลับสู่บริษัท ดังนั้นบริษัทจึงต้องจัดให้บริการคำปรึกษาโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ การจัดฝึกอบรมให้กับเจ้าของร้าน การวางแผนการลงทุน การดีไซน์ตกแต่งหน้าร้าน

“หลังจากเปิดร้าน เราจะส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแลลูกค้าว่าเปิดขายแล้วเป็นอย่างไรบ้าง อย่างเริ่มเปิดอาจมีเพียงตู้ไอศกรีมมาขาย เราอาจขยายสื่อสนับสนุนให้ หรือพวก P.O.P ตัวใหม่มาให้ และยอดขายเองเราก็เช็คได้อยู่แล้วว่าเขาจะไปไหวไหม ที่วางไว้คือยอดสั่งไอศกรีมไม่ต่ำกว่า 2,500 บาท ต่อเดือน” ผู้จัดการผลิตภัณฑ์เนสท์เล่ ไอศกรีม บอกกับเรา

นอกจากการจัดทีมที่ปรึกษา เนสท์เล่ ยังเปิด “Sundae School” สำหรับ ให้ผู้ลงทุนมาเรียนเรื่องการทำไอศกรีมตกแต่งแบบใหม่ๆ สอนวิธีการตักไอศกรีม เพื่อควบคุมต้นทุนในการขาย และได้ลูกที่กลมสวย และความรู้ด้านทฤษฎีเช่นการดูแลบริหารจัดการภายในร้าน โดยผู้ลงทุนสามารถเรียนรู้ทั้งหมดได้ภายใน 1 วัน และมีการเปิดสอนเดือนละ 1 ครั้ง ครั้งละ 20 คน โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

โอลิเวียร์ จาคูโบวิช บอกว่า สำหรับการคืนทุนของไอศกรีมเนสท์เล่ จะค่อนข้างทำได้เร็ว เนื่องจากการขายไอศกรีมลูกค้าจะสามารถกำหนดราคาได้เอง โดยทางบริษัทจะให้แนวทางการกำหนดราคาไว้ให้ ซึ่งที่ ผ่านมาหากต้นทุนไอศกรีมอยู่ที่ 12-15 บาท ราคาขายก็อยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 35 บาท กำไรต่อถ้วยก็ 20 บาท แล้ว เรียกว่าราคาขายเฉลี่ยที่ประมาณ 25-65 บาท มีกำไรสูงกว่า 50%

อย่างไรก็ตามปัจจัยที่จะทำให้ผู้ลงทุนประสบความสำเร็จได้นั้น ขึ้นกับระบบบริหารจัดการภายในร้าน บวกกับความชอบและรักในไอศกรีมจะทำให้ธุรกิจเดินไปได้ดี

ที่สำคัญ ทำเลต้องเอื้อกับธุรกิจด้วย เช่นหากสามารถอยู่ใกล้ สถานศึกษา คอนโดมิเนียม หรือย่านร้านค้าต่างๆ ก็จะยิ่งสนับสนุนให้กิจการเติบโตไปได้ดีด้วย โดยที่ผ่านมาเนสท์เล่เดินหน้าโครงการดังกล่าวไปได้ 1 ปี มีผู้ที่ประสบความสำเร็จประมาณ 80% ถึงปัจจุบัน มีเครือข่ายร้านไอศกรีมเนสท์เล่ทั่วประเทศ แล้วที่ 1,000 ราย และตั้งเป้าที่จะขยายโอกาสธุรกิจสูงกว่า 10% ทุกปี

“ขัติญา โพธิ์เมือง” หนึ่งในเจ้าของร้านเครือข่ายไอศกรีม เนสท์เล่ บอกเราว่า การขายไอศกรีมในทำเลที่เหมาะสมให้รายได้ดี

สำหรับเธอเริ่มต้นจากการขายอาหาร และลองเพิ่มบริการในส่วนของไอศกรีมเข้ามา
“ไอศกรีมกลับขายดี กว่าการขายอาหารเสียอีก เพราะไอศกรีมขายง่าย”

แต่ส่วนหนึ่งมาจากการครีเอทเมนูไอศกรีมให้น่าลิ้มลองตลอดเวลา ยิ่งมีลูกเล่น สีสันหน้าตาดูดีมากขึ้นก็สามารถเพิ่มราคาให้สูงกว่าธรรมดาได้

ที่สำคัญการบริการดีๆ ช่วยให้ลูกค้าติดใจแวะเวียนกลับมาเป็นลูกค้าขาประจำอีกด้วย
เรียกว่า ลงทุนต่ำ แต่โอกาสกำไรสูง ธุรกิจเสริมง่ายๆ ของคนมีไอเดีย
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ >> SMEs

ป้ายกำกับหน้านี้
อาชีพทําเงิน, อาชีพเสริมทําเงิน, หางานทํา, หางานทําที่บ้านรายได้ดี,
อาชีพเสริม, งานฝีมือ, ราย ได้ เสริม ทำ ที่ บ้าน
ธุรกิจส่วนตัว , อยากทำธุรกิจส่วนตัว, อยากหางานทํา, อยากทำธุรกิจส่วนตัว, 108 อาชีพ ทํา เงิน
หางาน, อาชีพ เสริม , อาชีพอิสระ, ธุรกิจส่วนตัว, อยากทำธุรกิจส่วนตัว