ไอศกรีมทอด



ตี๋ ดอกสะเดา ขายไอศกรีมทอดไม่ถึงสองปี มีแฟรนไชซีเป็นร้อย!

จุดเริ่มอาชีพเสริมของคุณบุญทอง หาญจางสิทธิ์ หรือที่หลายท่านรู้จักกันดีในบทบาทดาราตลก ฉายา “ตี๋ ดอกสะเดา” นั้นน่าจะมีทิศทางความเป็นมาคล้ายคลึงกับนักแสดงหลายๆ คน คือตั้งต้นจากความกระตือรือร้น อยากหาแหล่งรายได้อีกทาง นอกเหนือจากงานแสดงซึ่งอาจมีมากบ้างน้อยบ้างตามแต่ผู้ว่าจ้างจะสนใจ

 

ไอศกรีมทอด
ไอศกรีมทอด ภาพประกอบจาก เส้นทางเศรษฐี

แต่ก่อนจะลงลึกในรายละเอียดของธุรกิจ มีข้อมูลส่วนตัวของคนดังท่านนี้มาเกริ่นนำ เพื่อทำความรู้จักกันให้มากขึ้นสักหน่อย

 

“ปัจจุบันอายุ 41 ปี มีพี่น้องทั้งหมด 5 คน พื้นเพเป็นคนจังหวัดปทุมธานี จบการศึกษาชั้นมัธยมฯ 3 ครับ” คุณตี๋ พูดถึงตัวเองให้ฟังด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ก่อนเล่าต่อว่า หลังจากเรียนจบ เคยทำงานมาหลายอาชีพ นับตั้งแต่ ช่างซ่อมแอร์ พนักงานขุดสายเคเบิล ฯลฯ แต่ทำได้ไม่นานเพราะไม่ถนัด กระทั่งราวปี พ.ศ. 2528 ทาง “เอกพจน์ วงศ์นาค” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้อง มาชักชวนให้เที่ยวชมวงดนตรีของเขา ซึ่งมี “เด๋อ ดอกสะเดา” ดูแลและร่วมเล่นตลกอยู่ จึงตกปากรับคำไปทันที

 

“ผมชื่นชอบพี่เด๋อเป็นการส่วนตัวและอยากเป็นตลกแบบเขา พอคุณเอกพจน์มาชวนเลยไม่ลังเล เข้าไปทำงานทันที ทำหน้าที่ยกของและตีกลองรับมุข ให้กับคณะตลกของพี่เด๋อ กระทั่งวันหนึ่งนักแสดงตลกขาด พี่เด๋อเลยให้ผมขึ้นไปเล่นทาหน้าขาวขึ้นเวทีเป็นครั้งแรก หลังจากนั้นอยู่คณะเด๋อ ดอกสะเดา มาตลอด ไม่เคยย้ายไปอยู่คณะอื่นเลย” คุณตี๋ ย้อนความทรงจำเมื่อครั้งอายุได้ราว 17 ปีเศษ

 

คุณตี๋ เล่าให้ฟังต่อว่า เมื่อยึดอาชีพหลักด้วยการเป็นนักแสดงตลกมาได้ระยะหนึ่ง จึงเริ่มมองหาอาชีพเสริมเพื่อหารายได้เลี้ยงดูครอบครัวเพิ่มเติม เพราะลำพังเพียงงานแสดงรายได้มักไม่แน่นอน ประกอบกับภรรยาของเขา มีความสามารถด้านการจัดดอกไม้ เมื่อราว 6 ปีที่แล้ว จึงตัดสินใจลงทุนเปิดร้านขายและรับจัดดอกไม้สดทั้งในและนอกสถานที่ ใช้ชื่อว่า “ร้านดอกไม้กับนายตลก” ตั้งอยู่ย่านลาดพร้าว

 

แต่ถึงแม้จะมีธุรกิจร้านดอกไม้ควบคู่กับอาชีพหลักแล้วก็ตาม แต่คุณตี๋ยังไม่นิ่งนอนใจ เพราะเมื่อช่วง 2-3 ปี ก่อนหน้านี้ เกิดภาวะผันผวนกับอาชีพการงานของเขาเป็นอย่างมาก

 

“ช่วงหนึ่งงานเยอะมาก บางวันวิ่งรอก 2-3 ที่ แต่ต่อมางานน้อยลง รายการโดนยกเลิก เลยคิดว่าทำยังไงดี รายได้หายไปแต่รายจ่ายเยอะ เลยอยากหาอะไรทำเพื่อเพิ่มรายได้ พอดีเห็นตัวอย่างพวกพี่ๆ ในวงการตลกเขาขายของกัน อย่าง พี่เด๋อขายลูกชิ้นหมู พี่โย่งขายน้ำพริก พี่ถั่วแระขายก๋วยเตี๋ยว แล้วตัวเราจะหาอะไรมาขายดี” คนดังประจำฉบับ เล่าอย่างนั้น

 

การ “หาของมาขาย” ในแบบที่ไม่ซ้ำใคร อีกทั้งต้องโดนใจลูกค้าด้วยนั้น คุณตี๋ บอกว่า เป็นโจทย์ยากที่สุด ดังนั้น เขาจึงมักใช้ช่วงว่างจากงานแสดง ครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา แต่คิดเท่าไหร่ยังคิดไม่ออก กระทั่งอยู่มาวันหนึ่งกลับพบคำตอบชนิดไม่คาดมาก่อน

 

“ตอนขับรถนั่งไปกับลูกอายุ 7 ขวบ ลองคุยกับเขาว่าพ่อจะทำอะไรขายดี ลูกผมบอกว่าขายไอติมทอดซิ เลยบอกไปว่า เคยได้ยินแต่ไม่เคยเห็น เขาเลยจะพาไปเองเพราะเคยไปทานกับอาของเขา พอผมได้ทานรู้สึกว่ามันแปลกดีและอร่อยดีด้วย จึงสนใจและคิดว่าจะนำสินค้าตัวนี้แหละไปขาย” คุณตี๋ เล่าถึงจุดเริ่มต้นและบอกด้วยว่า ช่วงแรกตั้งใจจะทำธุรกิจแบบ “รับมาขายไป” แต่คำนวณแล้วได้ผลตอบแทนไม่คุ้ม จึงขอเจรจาขอซื้อสูตรในราคา 10,000 บาท โดยตัวเขาและภรรยาไปเรียนด้วยตัวเอง

 

ครั้นมีความรู้ในการห่อแผ่นขนมปังเข้ากับไอศกรีมสำเร็จรูปตามสูตรที่ร่ำเรียนมา สองสามี-ภรรยาไม่รอช้า รีบกลับมาฝึกมือต่อที่บ้านจนชำนาญในระดับหนึ่ง เมื่อคิดว่าน่าจะทำขายได้แล้ว คุณตี๋จึงตัดสินใจใช้พื้นที่หน้าร้านดอกไม้ย่านลาดพร้าว เป็นร้านขายไอศกรีมทอดในแบบของเขาไปพร้อมกัน

 

“ครั้งแรกจะขายใส่รถเข็น แต่ท่าทางจะไม่เวิร์ก เลยซื้อรถซูบารุมาดัดแปลง เจาะหลังคาเปิดด้านข้างพ่นสีม่วง มีรูปตัวเราเป็นการ์ตูน ติดโลโก้ ไอศกรีมทอด ตี๋ ดอกสะเดา ไปจอดหน้าร้านดอกไม้ เพื่อเรียกความสนใจจากลูกค้า ใช้เงินลงทุนครั้งนั้น ประมาณ 130,000 บาท” คุณตี๋ เผย

 

กล้าลงทุนครั้งแรกด้วยเงินเป็นแสนบาท แสดงว่ามั่นใจในธุรกิจใหม่ล่าสุดนี้มาก คุณตี๋ แจงประเด็นสงสัยนี้ให้ฟัง

 

“นึกซะว่าเหมือนเล่นพนัน ถ้าได้ก็ได้เลย แต่ถ้าไม่ได้คืนไม่เป็นไร คิดว่าหมดแค่ทุนก้อนนั้น แต่ถ้าถามว่ามั่นใจว่าจะขายได้มั้ย ผมคิดว่าเป็นสินค้าแปลกและไม่ค่อยมีใครขาย ไม่ค่อยมีคนเคยเห็น ยิ่งคนสูงอายุมาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ขนาดแม่ผมยังบอกเลยว่า ไอติมบ้านพ่อ…เหรอ ทอดได้” ดาวตลกเจ้าของมุข “ตาเหล่” เล่าอย่างออกรส เรียกเสียงฮาครืน

 

คุณตี๋ เล่าอีกว่า ไอศกรีมทอดในแบบของเขานั้น เปิดขายเป็นครั้งแรกเมื่อราวเดือนมีนาคม 2550 โดยตั้งราคาไว้ที่ถ้วยละ 12 บาท แต่เพิ่งปรับราคาขึ้นมาเป็น 15 บาท เมื่อไม่นานมานี้ เนื่องจากมีการเปลี่ยนถ้วยโฟมมาเป็นถ้วยกระดาษ เหตุเพราะลูกค้าหลายคนไม่กล้ารับประทานของร้อนที่ใส่ลงไปในถ้วยโฟม

 

แม้ความตั้งใจแต่เดิมของคุณตี๋ จะหยุดอยู่แค่ที่ “ขายหน้าบ้าน” วันละร้อยลูกก็ดีถมไปแล้ว แต่เมื่อเห็นช่องทางที่อาจจะทำให้สินค้าขยายเป็นวงกว้าง เขาจึงไม่รีรอหรือลังเลแม้แต่วินาทีเดียว

 

“วันนั้นขับรถขึ้นทางด่วนเห็นป้ายประชาสัมพันธ์งานสู้แล้วรวย จัดที่เมืองทองธานี นึกอยากไปขายของเลยไปปรึกษากับ คุณปู ภรรยาของพี่เด๋อ กระทั่งได้ไปเปิดบู๊ธใกล้กับบู๊ธขายลูกชิ้นหมูของพี่เขา ช่วงแรกขายได้วันละ 200-300 ลูก แต่พอมีรายการโทรทัศน์มาถ่ายทำ หลังจากออกอากาศวันรุ่งขึ้นมีลูกค้าเข้ามาที่บู๊ธแบบถล่มทลาย จำได้ว่าขายของวันนั้นได้ไม่ต่ำกว่า 1,200 ลูก” เจ้าของธุรกิจคนดัง เล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

 

และนั่นเองที่เป็นจุดเริ่มของประกายความคิดในการขยายธุรกิจไปในรูปแบบของแฟรนไชส์

 

“มีคนเห็นว่าของเราขายดีเลยมาถามว่ามีแฟรนไชส์มั้ย ตอนนั้นผมยังไม่เข้าใจเลยว่าแฟรนไชส์คืออะไร แต่พอถามกันเข้ามามาก เลยไปศึกษาพบว่าน่าสนใจ จึงลองเริ่มต้นดู จากวันนั้นถึงวันนี้ใช้เวลาเกือบ 2 ปี ผมมีแฟรนไชซีแล้วกว่า 140 ราย ทั้งที่ตั้งใจไว้ว่าปีแรกอาจจะมีแค่ 35 ราย แต่กลับได้ผลเกินคาด เข้าใจว่าส่วนหนึ่งน่ามาจากการประชาสัมพันธ์ของสื่อมวลชนหลายๆ แขนงนะครับ” คุณตี๋ บอกอย่างถ่อมตัว

 

ถามถึงผลประกอบการของบรรดาแฟรนไชซี คุณตี๋ บอกว่า หลายรายไปได้ดี แต่ยอมรับว่ามีบางรายที่ขายดีเฉพาะช่วงแรก เพราะไอศกรีมทอดของเขานั้นเป็นสินค้าแฟชั่นซึ่งต้องขึ้นกับทำเลเป็นสำคัญด้วย

 

“เวลามีคนมาขอซื้อแฟรนไชส์ จะบอกก่อนเสมอว่าต้องรอบคอบก่อนตัดสินใจนะครับ ต้องดูทำเลให้ดี ไม่ใช่เห็นว่าเราขายดี แล้วคุณอยากขายดีเหมือนกับเราบ้าง มันไม่ใช่นะครับ อย่างสถานที่คนเดินเยอะ คุณคิดว่าต้องได้แน่ๆ พอไปขายจริง อาจไม่ได้นะ เพราะที่เห็นคนเยอะคือคนเดินกลับบ้าน ไม่ใช่แหล่งที่คนจะมาซื้อของกิน”

 

“จริงอยู่ที่ว่าสินค้าน่าสนใจ แต่ใช่ว่าจะขายดีเสมอไป เมื่อตั้งใจไปขายต้องแน่ใจด้วย ผมขายแฟรนไชส์ให้คุณ แต่เวลาคุณขายได้น้อยหรือขายไม่ได้ ผมคงไม่มีความสุข เพราะไม่ใช่สักแต่จะขายให้เพื่อเอาเงินแรกเข้าอย่างเดียว ผมไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด ต้องคุยกันก่อนเลยว่าขอให้คิดให้ดี อย่าหลอกตัวเองนะว่าขายได้จริงๆ” คุณตี๋ อธิบายจริงจัง

 

ก่อนจากกันไป คุณตี๋ ฝากทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า

 

“หากคิดจะค้าขาย ไม่ใช่คิดแค่วันสองวัน ต้องคิดหลายๆ วัน คิดหลายตลบ คิดหลายรอบ ว่ามันใช่มั้ย จะขายได้มั้ย ต้องดูให้รอบด้าน และต้องจริงจังทำให้ได้ ไม่ใช่วันสองวันแรก ขายไม่ได้ก็เลิกแล้ว ทุกอย่างในชีวิตต้องใช้ความอดทน ทนไปก่อน ทนเอาหน่อย แล้วสักวันจะดีเอง”

 

ปัจจุบัน ร้านไอศกรีมทอดต้นแบบของคุณตี๋ ดอกสะเดา ย้ายจากย่านลาดพร้าว มาอยู่หน้าร้านดอกไม้ของเขาในซอยรามอินทรา 109 แล้ว สนใจแวะไปชิมหรือสอบถามรายละเอียดแฟรนไชส์ โทรศัพท์ไปก่อนได้ที่ (084) 932-5454, (089) 415-3847 และ (084) 924-9998

 

ไอศกรีมทอด “ตี๋ ดอกสะเดา”

 

แฟรนไชส์ ราคา 30,000 บาท จะได้ แฟรนไชส์ราคา 15,000 บาท จะได้

– บู๊ธตั้งขายพร้อมโลโก้ ขนาด 1.20 เมตร – ป้ายโลโก้ ขนาด 1.20 เมตร

– อุปกรณ์การขายทั้งหมด – อุปกรณ์การขายทั้งหมด

– ไอศกรีมครั้งแรก 200 ลูก – ไอศกรีมครั้งแรก 200 ลูก

– ท็อปปิ้งเติม 4 รส – ท็อปปิ้งเติม 4 รส

– ถ้วยไอศกรีม 200 ใบ – ถ้วยไอศกรีม 200 ใบ

– รูปคุณตี๋ขนาดเท่าตัวจริง 1 ชุด – รูปคุณตี๋ขนาดเท่าตัวจริง 1 ชุด

ที่มา เส้นทางเศรษฐี

 

Job.MateThai.Com ( Job.MateThai.Com )

TAG อาชีพทําเงิน, อาชีพเสริมทําเงิน, หางานทํา, ธุรกิจส่วนตัว อาชีพทําเงิน

อยากทำธุรกิจส่วนตัว, อยากทำธุรกิจส่วนตัว, 108 อาชีพ ทํา เงิน

อยากหางานทํา, อยากทำธุรกิจส่วนตัว, การ ทํา ธุรกิจ ส่วนตัว, หลักการ ทํา ธุรกิจ ส่วนตัว

$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$

 

One thought on “ไอศกรีมทอด”

  1. รวมแฟรนไชส์108
    รวมธุรกิจแฟรนไชส์ – ธุรกิจส่วนตัว
    คุณกำลังอยาก ลองทำธุรกิจส่วนตัวอยู่รึเปล่า ???

    ถ้าใช่ จะดีแค่ไหน ถ้าคุณทำธุรกิจส่วนตัว โดยมีพี่เลี้ยงแนะนำ
    กับธุรกิจแฟรนไชส์ รวย ๆ ๆ
    http://www.job.matethai.com/%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%9F%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%8A%E0%B8%AA%E0%B9%8C108/

Leave a Reply