ตุ๊กตาหน้าทะเล้น

PLA-BO จับต้นไม้ใส่ไอเดีย สู่ตุ๊กตาหน้าทะเล้นจากเมล็ดหญ้า
Interior + Plants = WHAT? นี่คงเป็นคำถามก่อนเจ้าของธุรกิจนี้ทั้ง 7 คนจะลงร่วมกันลงขันทำธุรกิจภายใต้แบรนด์ ?PLA-BO? (Plants Laboratory) ซึ่งทุกคนที่เป็นหุ้นส่วนจะมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของต้นไม้มายาวนาน แต่ต้องการเพิ่มมูลค่าให้กับต้นไม้ โดยจะใช้การใส่ไอเดียให้กับต้นไม้ที่แปลกใหม่ และสะดุดตากับผู้พบเห็น

มัทนพร ศรีอักษร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท พลาโบ จำกัด เล่าว่า การตั้งบริษัทนี้ เกิดจากหนึ่งในหุ้นส่วนที่เป็นชาวญี่ปุ่น ชื่นชอบในเรื่องของต้นไม้ และการศึกษาธรรมชาติของต้นไม้หลากหลายชนิดโดยได้สั่งสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 20 ปี จึงต้องการเพิ่มมูลค่าให้กับต้นไม้ โดยเฉพาะต้นไม้ไทยให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งยังเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรไทยด้วย ซึ่งคอนเซ็ปต์ต้นไม้ของ พลาโบ จะไม่ใช้ดินในการปลูก และต้องการให้ลูกค้าทุกคนเป็นผู้ที่ปลูกต้นไม้ขึ้น

หนึ่งในหุ้นส่วนที่เป็นชาวญี่ปุ่น ชื่นชอบในเรื่องของต้นไม้ ในช่วงแรกเป็นการซื้อต้นไม้จากไทย ไปขายที่ประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ก็มีความคิดที่จะทำธุรกิจในไทย จึงเริ่มจากการมองต้นไม้ของไทย ที่มักจะอยู่ในกระถาง หาซื้อได้ง่ายตามสวนจตุจักร ซึ่งรูปลักษณ์ของต้นไม้ก็เหมือนๆ กันไม่มีความแปลกใหม่ ทำให้คิดที่จะเพิ่มมูลค่า ด้วยการนำมาใส่ไอเดียที่แปลกใหม่ จึงได้ร่วมกับหุ้นส่วนที่เป็นคนไทยในการเป็นซัพพลายเออร์ต้นไม้ให้ ซึ่งวัตถุดิบส่วนใหญ่ประมาณ 80-90 % จะใช้ของไทย รวมถึงขั้นตอนการผลิตทั้งหมดด้วย?

ในที่สุดการนำไอเดียมาใส่ให้กับต้นไม้ ก็มาลงตัวในธุรกิจที่เรียกว่า Interior Plants ในปี 2547 ด้วยการนำขุยมะพร้าวมาทำเป็นหัวตุ๊กตาหน้าทะเล้น ซึ่งในส่วนบนของหัวตุ๊กตาจะใส่เมล็ดพืช ซึ่งเป็นเมล็ดที่นำเข้าจากสหรัฐฯ และเมื่อนำเชือกมาเชื่อมต่อกับหัวตุ๊กตาไปแช่ไว้ในน้ำ เมล็ดหญ้าก็จะเติบโตคล้ายเส้นผม ซึ่งลูกค้าสามารถนำไปตัดแต่ง หรือนำมาผูกโบได้ตามจินตนาการ

การที่เรานำเมล็ดหญ้าที่ต้องนำเข้ามาจากสหรัฐฯ ทั้งๆ ที่เมล็ดหญ้าในไทยก็มีอย่างมากมาย เพราะเมล็ดหญ้าไทยจะมีการแทงขึ้นจากขุยมะพร้าวยาก และสีไม่สดเหมือนเมล็ดหญ้าจากสหรัฐฯ และการนำเมล็ดพืชจากสหรัฐฯ จะทำได้โดยง่าย เนื่องจากสามารถนำเข้าและส่งออกได้อย่างเสรี?

ปัจจุบันสินค้าของพลาโบ ได้มีการออกแบบเป็นตุ๊กตาหลากหลายรูปแบบ ขึ้นกับการนำไปประดับตกแต่ง ทั้งที่โต๊ะทำงาน ในห้องน้ำ และห้องรับแขก ที่ได้ดีไซน์เป็นสวนสีเขียววงกลม และเมื่อต้นไม้สิ้นอายุขัย ก็สามารถนำมาใช้ประโยชน์เป็นที่เขี่ยบุหรี่ได้ ซึ่งโดยเฉลี่ยอายุของเมล็ดหญ้าที่นำมาปลูกจะอยู่ได้ประมาณ 3 เดือน ในกรณีลูกค้าดูแลเป็นอย่างดี คือ นำไปตากแดดอ่อนๆ บ้าง ฉีดสเปรย์ หรือหมั่นเติมน้ำ โดยจะต้องไม่ให้น้ำล้นไปจนถึงคอของตุ๊กตา เพราะจะทำให้ขุยมะพร้าวเกิดเชื้อราขึ้นได้ แต่หากลูกค้าซื้อไปปลูกแล้วต้นหญ้าไม่ขึ้น ทางบริษัทฯ ยินดีเปลี่ยนให้ฟรี ซึ่งการเก็บจะอยู่ได้ประมาณ 1 ปี โดยราคาจะเริ่มต้นที่ 85-590 บาท

จากการที่สินค้าทำได้ไม่ยาก ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายคิดผลิตสินค้าขึ้นเพื่อเลียนแบบ ด้วยการใช้เมล็ดข้าวแทน หรือใช้เมล็ดพืชชนิดอื่นแทนบ้าง แต่ก็ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของพลาโบพอสมควร ทำให้ต้องออกแบบผลิตภัณฑ์ และค้นหาวัตถุดิบอื่นมาทดแทนการใช้น้ำ สุดท้ายจึงมาลงตัวที่ Neo Coal ซึ่งเป็นเม็ดเล็กๆ คล้ายปุ๋ยเคมี จะทำหน้าที่คล้ายดิน ช่วยทำให้น้ำสะอาด เนื่องจากภายในจะเป็นถ่าน โดย Neo Coal จะนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งขณะนี้ทางพลาโบ กำลังคิดค้นขึ้นเอง และผลิตในไทย เพื่อลดต้นทุนการผลิตในการนำเข้า

เมื่อเรานำ Neo Coal มาใช้ทำให้เราสามารถแตกไลน์สินค้าออกไปได้อีก โดยเริ่มจากการนำต้นไม้ของไทย โดยเป็นพืชที่ชอบแดดรำไร จากย่านรัตนาธิเบศธ์ จ.นนทบุรี นำมาปลูกโดยใช้ Neo Coal แทนดิน ผลปรากฏว่าลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากหมดปัญหาการเละเทอะ จากการใช้ดิน และยังสามารถนำไปจัดแสดงตามงานในร่มได้เป็นอย่างดี ซึ่งต้นไม้ที่เราปลูกใน Neo Coal จะเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าชาวต่างชาติมาก เช่น เกาหลี และญี่ปุ่น?

นอกจากนี้เมื่อทางพลาโบได้นำ Neo มาใช้ในการปลูกต้นไม้แล้ว ยังได้มีการพัฒนารูปแบบเป็นต้นไม้ที่ให้ลูกค้าสามารถนำไปปลูกเองได้ด้วย โดยการนำกิ่งของต้นลีลาวดี ทั้งสีส้ม สีขาว และสีชมพู และกิ่งของต้นแก้วมังกร มาปักไว้ในภาชนะแก้ว เพื่อให้ลูกค้านำไปปลูกได้สะดวก ในราคา 195 บาท รวมถึงยังมีการนำเมล็ดหญ้า เมล็ดดอกบานไม่รู้โรย และเมล็ดดอกลาเวนเดอร์ มาบรรจุลงในถุงพลาสติกแฝงความหมาย ดีไซน์เก๋ เพื่อให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับลูกค้าในการซื้อเป็นของขวัญของฝากที่ถูกใจผู้รับ

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของพลาโบไว้ขายตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป ยกเว้นในส่วนของต้นไม้ที่ปลูกใน Neo Coal จะวางจำหน่ายที่ห้างอีเซตัน เท่านั้น เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติโดยเฉพาะ ส่วนแผนในอนาคตทางพลาโบ จะมุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพมากขึ้น เช่น การระบุวันผลิต และวันหมดอายุ และพยายามคิดค้นสินค้าตัวใหม่ๆ เพื่อหลีกหนีคู่แข่ง และให้บริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

*** สนใจติดต่อ 0-2279-6642, 0-2278-4430***

ที่มา ผู้จัดการออนไลน์ >> SMEs

ป้ายกำกับหน้านี้
อาชีพทําเงิน, อาชีพเสริมทําเงิน, หางานทํา, หางานทําที่บ้านรายได้ดี,
อาชีพเสริม, งานฝีมือ, ราย ได้ เสริม ทำ ที่ บ้าน
ธุรกิจส่วนตัว , อยากทำธุรกิจส่วนตัว, อยากหางานทํา, อยากทำธุรกิจส่วนตัว, 108 อาชีพ ทํา เงิน
หางาน, อาชีพ เสริม , อาชีพอิสระ, ธุรกิจส่วนตัว, อยากทำธุรกิจส่วนตัว